หุ้น Inditex แม่ของ Zara ดิ่ง 8% หลังยอดขายช้าและผู้บริโภคไม่กระตือรือร้นในช่วงต้นปี

หุ้น Inditex แม่ของ Zara ดิ่ง 8% หลังยอดขายช้าและผู้บริโภคไม่กระตือรือร้นในช่วงต้นปี ข่าวต่างประเทศ
ราคาหุ้นของ Inditex ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Zara ร่วงลง 8% หลังจากการเริ่มต้นปีที่ช้า เนื่องจากผู้บริโภคที่ไม่กระตือรือร้นและความไม่แน่นอนในตลาด การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญในช่วงต้นปี รวมถึงการปรับตัวของผู้ซื้อและภาวะเศรษฐกิจ

“`html

หุ้นของ Inditex บริษัทแม่ของ Zara ตกลง 8% หลังจากตีนเปิดปี 2025 ช้า

หุ้นของ Inditex ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Zara ลดลง 8% ในวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ค้าปลีกพบการชะลอตัวในการเติบโตของยอดขายเริ่มต้นปีงบประมาณ โดยการลดครั้งนี้ถือเป็นการลดลงอย่างมีเปอร์เซ็นต์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นของการระบาด COVID-19

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตกลง

  1. การเติบโตของยอดขายที่ชะลอตัว: Inditex รายงานว่ายอดขายในร้านและออนไลน์เพิ่มขึ้นเพียง 4% (ไม่รวมการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 10 มีนาคม 2025 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าช้ากว่าการเติบโตที่ 10.5% ในปีงบประมาณก่อนหน้า
  2. การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น: การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ราคาประหยัดจากจีน เช่น Temu และ Shein ทำให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่รวดเร็วมากขึ้น
  3. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ: ความกังวลเกี่ยวกับภาษีการค้าและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงกำลังสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน
  4. ความรู้สึกของผู้บริโภคที่อ่อนแอ: ดัชนีความรู้สึกของผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงไปที่ 64.7 ในเดือนกุมภาพันธ์จาก 71.7 ในเดือนมกราคม บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในผู้บริโภคที่ลดลง

ผลประกอบการทางการเงินและแนวโน้ม

แม้ว่าหุ้นจะตกลง แต่ Inditex รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งสำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2025:

  • ยอดขายทั้งปีเติบโต 10.5% จนถึง 38.6 พันล้านยูโร (42.07 พันล้านดอลลาร์)
  • รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 9.0% สู่ 5.9 พันล้านยูโร
  • บริษัทเสนอการเพิ่มเงินปันผล 9% สู่ 1.68 ยูโรต่อหุ้น

สำหรับปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดในเดือนมกราคม 2026 Inditex คาดการณ์ว่า:

  • มาร์จิ้นรวมที่คงที่ (บวกหรือลบ 50 จุดฐาน)
  • ผลกระทบเชิงลบจากสกุลเงินที่มีต่อยอดขายที่ 1%
  • การเพิ่มพื้นที่รวมประมาณ 5%

ความท้าทายในอุตสาหกรรมและแนวโน้ม

อุตสาหกรรมแฟชั่นค้าปลีกเผชิญกับความท้าทายหลายประการในปี 2025:

  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ: การอภิปรายที่ยังดำเนินอยู่เกี่ยวกับการเข้าเมือง, ภาษี, การลดกฎระเบียบ และภาษีสร้างมุมมองทางเศรษฐกิจที่ไม่ชัดเจน
  • พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง: ลูกค้าเริ่มเป็นผู้บริโภคที่ตอบสนองต่อราคาได้มากขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในช่วงล่าสุด
  • ความกังวลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: อุตสาหกรรมต้องจัดการกับปัญหาที่ยั่งยืนในขณะที่ต้องดูแลความกดดันทางการเงินในระยะสั้น
  • การปรับโครงสร้างการค้าโลก: ผู้ค้าปลีกกำลังปรับโครงสร้างห่วงโซ่การผลิตเพื่อให้เน้นการผลิตในประเทศที่มีภูมิศาสตร์ที่เชื่อมโยงกัน

การตอบสนองและกลยุทธ์ของ Inditex

ซีอีโอ Oscar Garcia Maceiras ได้เน้นย้ำถึงความสามารถของบริษัทในการบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดจากภาษีต่าง ๆ ผ่านการกระจายความหลากหลายของแหล่งผลิตและการขาย เขากล่าวว่า “สภาพแวดล้อมในปัจจุบันยากที่จะคาดการณ์” แต่มีความมั่นใจในความสามารถของบริษัทในการดำเนินงานในปีหน้า

Inditex กำลังดำเนินกลยุทธ์หลายประการเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่ท้าทาย:

  1. ขยายความสามารถทางโลจิสติกส์และปรับปรุงพื้นที่ทางกายภาพและดิจิทัล
  2. เน้นตลาดเอเชียอื่น ๆ (เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี และอินเดีย) เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนในจีน
  3. มุ่งเน้นกลุ่ม “คนรุ่นเงิน” ที่มีอายุเกิน 50 ปี
  4. ลงทุนต่อเนื่องในโครงการความยั่งยืนเพื่อสร้างความได้เปรียบในระยะยาว

บทสรุป

แม้ว่า Inditex จะเผชิญกับความท้าทายระยะสั้นและความไม่แน่นอนของตลาด แต่ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์ที่ชัดเจนทำให้บริษัทมีโอกาสในการจัดการกับตลาดค้าปลีกที่ซับซ้อนในปี 2025 นักลงทุนและผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมจะติดตามว่ยักษ์ใหญ่แฟชั่นรายนี้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของผู้บริโภค ความท้าทายทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในเดือนข้างหน้าได้อย่างไร

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มและมุมมองของอุตสาหกรรมค้าปลีกในปี 2025 สามารถเยี่ยมชมได้ที่ Retail Dive’s 2025 Outlook.

“`
บทความเขียนโดย
Worawit Manitkul
Worawit Manitkul
นักเทรด Forex
ถามคำถาม
Rate article
Pro Thai Finance
Add a comment