ไต้หวันเสนอการช่วยเหลือบริษัทในการย้ายการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออินเดีย ท่ามกลางการคุกคามภาษีของทรัมป์

<h1>การตอบสนองของไต้หวันต่อการคุกคามภาษีของทรัมป์: การสนับสนุนการย้ายที่ตั้งและการจัดแนวทางยุทธศาสตร์</h1>

<p>ท่ามกลางการคุกคามภาษีใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไต้หวันได้จัดทำแผนการครอบคลุมเพื่อสนับสนุนบริษัทของตนในการย้ายโรงงานการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกา รวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย</p>

<h2>ความเปราะบางทางเศรษฐกิจและผลกระทบในทันที</h2>

<p>เศรษฐกิจของไต้หวันมีความเปราะบางเป็นพิเศษต่อการนโยบายภาษีของทรัมป์ เนื่องจากบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทหลายแห่งในไต้หวันมีโรงงานในเม็กซิโกและจีน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีใหม่ คำสั่งของทรัมป์รวมถึงภาษี 25% สำหรับการนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและส่วนใหญ่ของสินค้าจากแคนาดา รวมถึงภาษี 10% สำหรับสินค้าจากจีน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025</p>

<h2>การสนับสนุนสำหรับการย้ายไปยังสหรัฐอเมริกา</h2>

<p>เพื่อบรรเทาผลกระทบของภาษีเหล่านี้ กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันได้ประกาศมาตรการหลายประการเพื่อช่วยบริษัทในการย้ายไปยังสหรัฐอเมริกา:</p>
<ul>
    <li><b>ข้อมูลและความช่วยเหลือในการเป็นพันธมิตร</b>: กระทรวงจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับรัฐในสหรัฐฯ ที่มีโอกาสการลงทุน กฎหมายท้องถิ่น และความช่วยเหลือในการหาพันธมิตรในพื้นที่</li>
    <li><b>ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา</b>: สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมในอเมริเหนือจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนากับบริษัทไต้หวันและสหรัฐอเมริกา</li>
    <li><b>การสนับสนุนและการสื่อสารที่ทันเวลา</b>: กระทรวงจะรักษาการสื่อสารที่ใกล้ชิดกับบริษัทเพื่อให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือที่ทันเวลาในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศ</li>
</ul>

<h2>การลงทุนที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกา</h2>

<p>หนึ่งในการลงทุนที่ดูน่าประทับใจในบริบทนี้คือแผนการลงทุนของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (TSMC) มูลค่า 65,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานในรัฐแอริโซนา โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในสมัยรัฐบาลทรัมป์ครั้งแรก รวมถึงการผลิตเวเฟอร์เทคโนโลยีขนาด 4 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของความร่วมมือด้านเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน</p>

<h2>ความท้าทายและการปรับตัว</h2>

<p>แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดี แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ การดำเนินงานของ TSMC ในรัฐแอริโซนาได้ประสบปัญหาความล่าช้าเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างผู้จัดการชาวไต้หวันและคนงานชาวอเมริกัน ส่งผลให้มีการหมุนเวียนของบุคลากร เป้าหมายเดิมสำหรับการผลิตเต็มรูปแบบที่โรงงานในแอริโซนาได้ถูกเลื่อนไปจากปี 2024 เป็น 2025 และการดำเนินการของโรงงานที่สองยังถูกเลื่อนจากปี 2026 เป็นปี 2027 หรือ 2028</p>

<h2>การจัดแนวทางยุทธศาสตร์ร่วมกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ</h2>

<p>เพื่อจัดการกับความซับซ้อนจากนโยบายของทรัมป์ ไต้หวันกำลังมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาในพื้นที่ที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ:</p>
<ul>
    <li><b>ภาคเซมิคอนดักเตอร์</b>: ไต้หวันเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น ชิปขนาด 4 นาโนเมตรไปยังสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดความตึงเครียดกับวอชิงตันซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาชิปที่ผลิตในต่างประเทศ</li>
    <li><b>การเจรจาการค้า</b>: ไต้หวันมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามโครงการความริเริ่มการค้าร่วมสมัยระหว่างสหรัฐฯ-ไต้หวันซึ่งเริ่มเมื่อปี 2022 ครอบคลุมทุกพื้นที่การเจรจา โครงการนี้ได้เห็นข้อตกลงในด้านการบริหารศุลกากร การปฏิบัติตามกฎระเบียบ การต่อต้านคอร์รัปชัน และการพัฒนาองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง</li>
</ul>

<h2>การกระจายความเสี่ยงและกลยุทธ์เพิ่มเติม</h2>

<p>นอกจากการสนับสนุนการย้ายที่ตั้งแล้ว ไต้หวันยังสำรวจกลยุทธ์อื่น ๆ เพื่อกระจายการผลิตและลดความเสี่ยง:</p>
<ul>
    <li><b>เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย</b>: แม้ว่าจะมีการมุ่งเน้นหลักในการย้ายไปยังสหรัฐฯ แต่ไต้หวันที่กำลังพิจารณาภูมิภาคอื่น ๆ เช่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียเป็นจุดหมายสำหรับบริษัทของตน ความกระจายนี้มุ่งหวังที่จะลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์</li>
    <li><b>การล็อบบี้และแรงจูงใจของตลาด</b>: ไต้หวันวางแผนที่จะเพิ่มความพยายามในการล็อบบี้เพื่อแสดงข้อดีของข้อตกลงการค้าให้กับชุมชนและธุรกิจในอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาเสนอโบนัสภาษีและการทำให้กระบวนการเข้าตลาดง่ายขึ้นเพื่อดึงดูดธุรกิจสหรัฐและเข้ากับเป้าหมายทางเศรษฐกิจของทรัมป์</li>
</ul>

<h2>การตอบสนองของตลาดและนโยบายของรัฐบาล</h2>

<p>การประกาศภาษีของทรัมป์ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดการเงินของไต้หวัน หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่มีโรงงานอยู่ในเม็กซิโก เช่น Foxconn, Quanta และ Inventec ตกลงอย่างมากในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 ดัชนีมาตรฐานของไต้หวันยังลดลงประมาณ 4% เมื่อเปิดตลาดใหม่หลังจากวันหยุดตรุษจีน</p>

<p>ประธานาธิบดีไต้หวัน ล่าย ชิง-เทอ ได้ยืนยันกับบริษัทต่าง ๆ ว่ารัฐบาลจะรักษานโยบายที่เป็นมิตรเพื่อสนับสนุนบริษัทที่ลงทุนในไต้หวัน รวมถึงการควบคุมอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และเงินเฟ้อเพื่อช่วยจัดการต้นทุนของบริษัท</p>

<h2>บทสรุป</h2>

<p>แนวทางเชิงรุกของไต้หวันในการสนับสนุนบริษัทของตนท่ามกลางการคุกคามของภาษีจากทรัมป์ สะท้อนถึงความพยายามเชิงกลยุทธ์ในการนำทางความซับซ้อนของการค้าโลกและความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ ด้วยการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ การกระจายการผลิต และการเสนอการสนับสนุนแบบครอบคลุม ไต้หวันมุ่งหวังที่จะรับประกันความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของตน</p>

<p>สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน รวมถึงผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ คุณสามารถอ่านได้ที่:</p>
<ul>
    <li><a href="https://www.business-standard.com/world-news/taiwan-to-support-companies-in-relocating-to-us-following-trump-tariffs-125020300366_1.html">ไต้หวันจะสนับสนุนบริษัทในการย้ายไปยังสหรัฐฯ หลังจากภาษีของทรัมป์</a></li>
    <li><a href="https://globaltaiwan.org/2025/01/how-should-taiwan-brace-for-trumps-second-term/">ไต้หวันควรเตรียมตัวอย่างไรสำหรับวาระแห่งทรัมป์ครั้งที่สอง?</a></li>
    <li><a href="https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/taiwan-to-help-companies-relocate-to-us-following-trump-tariffs">ไต้หวันจะช่วยบริษัทในการย้ายไปยังสหรัฐฯ หลังจากภาษีของทรัมป์</a></li>
</ul>