การกลับมาของทรัมป์กระตุ้นชาวอเมริกันสมัครขอสัญชาติในสหราชอาณาจักรจำนวนมากเป็นประวัติการณ์

การกลับมาของทรัมป์กระตุ้นชาวอเมริกันสมัครขอสัญชาติในสหราชอาณาจักรจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ข่าวต่างประเทศ
การกลับมาของทรัมป์ได้สร้างสถิติใหม่ในจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นพลเมืองในสหราชอาณาจักร โดยมีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากในกระบวนการสมัคร ทั้งนี้เพื่อค้นหาความมั่นคงและโอกาสใหม่ ๆ ในต่างแดน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในสถานการณ์การเมืองของสหรัฐอ

การกลับมาของทรัมป์กระตุ้นคนอเมริกันจำนวนมากที่มองหาสัญชาติอังกฤษ

ในเหตุการณ์ที่น่าตกใจ จำนวนคนอเมริกันที่สมัครเข้าเป็นพลเมืองอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ในตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2025 [1][3][5] การอพยพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ดูเหมือนจะเกิดจากความกังวลทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงในนโยบายภาษีของสหราชอาณาจักร

ผลการศึกษาเบื้องต้น

  • มีชาวอเมริกันกว่า 6,100 คนสมัครเข้ารับสัญชาติอังกฤษในปี 2024 ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์[1]
  • การเพิ่มขึ้นของการสมัครเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งใหม่ของทรัมป์และนโยบายที่ตามมา[2][3]
  • ทั้งปัจจัยทางการเมืองและการปฏิรูปภาษีของอังกฤษมีส่วนช่วยในแนวโน้มนี้[3]

สภาพการเมืองในสหรัฐอเมริกา

ภูมิทัศน์ทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาได้แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนในประเด็นสำคัญ:

  • การเข้าเมือง: 73% ของพรรครีพับลิกันมองว่าการเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นปัญหาใหญ่ ขณะที่เพียง 23% ของพรรคเดโมแครตเห็นด้วย[2]
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: 66% ของพรรคเดโมแครตมองว่ามันเป็นปัญหาสำคัญ ขณะที่มีเพียง 13% ของพรรครีพับลิกันคิดเช่นนั้น[2]
  • สิทธิของคนข้ามเพศ: 84% ของผู้ใหญ่เชื่อว่าคนข้ามเพศจะสูญเสียอิทธิพลในช่วงวาระที่สองของทรัมป์[2]

การแบ่งแยกเหล่านี้ รวมถึงคำสั่งบริหารที่มีข้อถกเถียงที่ทรัมป์ลงนามเมื่อกลับเข้ารับตำแหน่ง ทำให้คนอเมริกันหลายคนพิจารณาสมัครสัญชาติในประเทศอื่น

นโยบายการเข้าเมืองของทรัมป์

นโยบายที่มุ่งเน้นการเข้าเมืองของประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากฐานเสียงของเขา แต่ก็สร้างความกังวลในหมู่ประชาชนทั่วไปเช่นกัน:

  • 59% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ สนับสนุนการเพิ่มจำนวนการส่งกลับผู้อพยพ
  • 58% สนันสนุนการขยายกำลังทหารที่ชายแดนทางใต้
  • 56% ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งบริหารของทรัมป์ที่นิยามสิทธิของการมีสัญชาติจากการเกิด[2]

นโยบายเหล่านี้อาจทำให้บางคนในอเมริกาพิจารณาไปตั้งอาศัยในประเทศที่มีวิธีการจัดการกับการเข้าเมืองและการรับสัญชาติที่แตกต่างออกไป

ความน่าสนใจของอังกฤษ

สหราชอาณาจักรได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับคนอเมริกันที่ต้องการ "อัปเกรด" สัญชาติของตน[5] แม้ว่าสาเหตุเฉพาะจะแตกต่างกันไป แต่ปัจจัยบางประการอาจมีส่วนช่วยในแนวโน้มนี้ได้แก่:

  • ความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรมและภาษา
  • ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
  • การรับรู้ว่าสหราชอาณาจักรเป็นสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในนโยบายภาษีของอังกฤษซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อบางคน[3]

ผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคนอเมริกันที่สมัครเข้ารับสัญชาติอังกฤษทำให้เกิดคำถามหลายประการเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวสำหรับทั้งสองประเทศ:

  • การสูญเสียแรงงาน: สหรัฐอเมริกาจะประสบปัญหาการขาดแคลนความสามารถและความเชี่ยวชาญหรือไม่?
  • ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: แนวโน้มนี้จะส่งผลกระทบต่อการค้าขายและการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างไร?
  • การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม: จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการมากขึ้นหรือไม่?
  • อิทธิพลทางการเมือง: คนอเมริกันที่อาศัยอยู่ในอังกฤษจะสามารถมีอิทธิพลต่อการเมืองของอังกฤษในอนาคตได้หรือไม่?

เมื่อสถานการณ์นี้ยังคงพัฒนา มันจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องติดตามแนวโน้มเหล่านี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นสำหรับทั้งสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก

บทสรุป

จำนวนชาวอเมริกันที่สมัครขอสัญชาติอังกฤษในสัดส่วนที่สูงเป็นประวัติการณ์หลังจากที่ทรัมป์กลับมาเข้ารับตำแหน่ง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในรูปแบบการอพยพระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันหลัก สาเหตุอื่นๆ เช่น โอกาสทางเศรษฐกิจและความชอบด้านวิถีชีวิตก็มีบทบาทเช่นกัน ขณะที่แนวโน้มนี้ยังคงเกิดขึ้น น่าสนใจที่จะสังเกตว่ามันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในอนาคตอย่างไร

บทความเขียนโดย
Worawit Manitkul
Worawit Manitkul
นักเทรด Forex
ถามคำถาม
Rate article
Pro Thai Finance
Add a comment