“`html
ซีดีแอลสูญเสียตำแหน่งผู้พัฒนาชั้นนำท่ามกลางความขัดแย้งในคณะกรรมการ
บริษัท ซิตี้ ดีเวลอปเมนท์ ลิมิเต็ด (CDL) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาทรัพย์สินที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์ เพิ่งสูญเสียตำแหน่งเป็นผู้พัฒนาที่จดทะเบียนใหญ่ที่สุดในประเทศให้กับกลุ่มยูโอแอล (UOL) ท่ามกลางความขัดแย้งภายในคณะกรรมการ ความเปลี่ยนแปลงในมูลค่าตลาดนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่สำคัญจากความขัดแย้งภายในต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการประเมินมูลค่าของบริษัท
เหตุการณ์สำคัญ:
- ผลการดำเนินงานของหุ้น: หุ้นของ CDL ลดลง 2.7% เมื่อการซื้อขายกลับมาเริ่มต้นในวันที่ 3 มีนาคม 2568 หลังจากการหยุดซื้อขาย[3] ซึ่งการลดลงนี้ทำให้ CDL สูญเสียสถานะเป็นผู้พัฒนาที่จดทะเบียนใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ให้กับกลุ่ม UOL[6].
- การสูญเสียมูลค่าตลาด: ตั้งแต่ปี 2561 เมื่อเควก (Kwek) คนรุ่นใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง ซีดีแอลสูญเสียมูลค่าตลาดประมาณ 60% ซึ่งเทียบเท่ากับเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์[6].
- การเติบโตของยูโอแอล: ในทางกลับกัน กลุ่มยูโอแอลเห็นว่าหุ้นของพวกเขาเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ราคา 5.46 ดอลลาร์ ทำให้พวกเขาแซงหน้า CDL เป็นผู้พัฒนาที่จดทะเบียนใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์[3].
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการลดลงของซีดีแอล:
- ความขัดแย้งในบอร์ด: บริษัทประสบปัญหาความขัดแย้งภายในคณะกรรมการซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในหมู่นักลงทุนและผลการดำเนินงานของหุ้นไม่ดี.
- การเปลี่ยนแปลงการบริหาร: การลดลงของมูลค่าตลาดตรงกับช่วงเวลาที่เควกคนรุ่นใหม่เข้ามาดูแล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจด้านผู้นำอาจมีผลต่อความยากลำบากของบริษัท.
- สภาพตลาด: แม้ว่า CDL จะต้องเผชิญความท้าทายภายใน แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์โดยรวมยังแสดงสัญญาณของความแข็งแกร่ง โดยคาดว่าดัชนีราคาทรัพย์สินจะเติบโต 1-2% ในปี 2568[7].
ผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์
แม้ว่าซีดีแอลจะประสบปัญหาส่วนบุคคล ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์โดยรวมถือว่ามีความมั่นคง:
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่อาศัยคาดว่าจะเห็นราคาคงที่ในปี 2568 โดยมีการเติบโตในระดับปานกลางตามอัตราเงินเฟ้อ[7].
- การเติบโตในเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานต่ำคาดว่าจะช่วยสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์[7].
- รัฐบาลยังคงบริหารจัดการอุปทานที่อยู่อาศัยผ่านโครงการขายที่ดินเพื่อรักษาความเสถียรในตลาด[4].
มองไปข้างหน้า
เมื่อ CDL พยายามจัดการกับปัญหาภายใน สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์กลับแสดงสัญญาณที่น่าพอใจสำหรับปี 2568:
- คาดว่า GDP จะเติบโต 2.8% และอัตราการว่างงานจะคงที่ ซึ่งสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์[7].
- อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจปรับปรุงความสามารถในการซื้อของผู้ซื้อบ้านที่มีศักยภาพ[7].
- โครงการขายที่ดินและการพัฒนาที่เกิดขึ้นใหม่เสนอแหล่งโอกาสสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ซื้อ[4].
สถานการณ์ที่ CDL เป็นเครื่องเตือนใจถึงว่าการบริหารภายในของบริษัทสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะในตลาดของบริษัท แม้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในสภาพค่อนข้างเสถียร ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ยังคงพัฒนาต่อไป นักลงทุนและผู้ซื้อบ้านต่างตั้งตารอดูว่าการเปลี่ยนแปลงการเป็นผู้นำในตลาดจะส่งผลต่อการพัฒนาและโอกาสในอนาคตอย่างไร
“`

