- การปลอมแปลงเสียงด้วย AI กลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
- บทนำ
- เหตุการณ์: การปลอมแปลงเสียงของมาร์โก รูบิโอ
- รายละเอียดของการปลอมแปลง
- การตอบสนองของกระทรวงการต่างประเทศ
- การเพิ่มขึ้นของการหลอกลวงด้วยเสียงที่สร้างขึ้นจาก AI
- ความเข้าใจในเทคโนโลยี Deepfake
- ผลกระทบต่อความปลอดภัยไซเบอร์
- บริบทที่กว้างขึ้น: เหตุการณ์การปลอมแปลง AI ก่อนหน้านี้
- การปลอมแปลง Susie Wiles
- คำเตือนจาก FBI และแคมเปญที่กว้างขึ้น
- การวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ: ความง่ายและอันตรายของการทำซ้ำเสียง AI
- การเข้าถึงเครื่องมือการทำซ้ำเสียง
- ศักยภาพในการหลอกลวงและการฉ้อโกง
- กลยุทธ์การบรรเทาและคำแนะนำ
- มาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็งขึ้น
- วรรณกรรมสื่อและการสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชน
- กรอบกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
- บทสรุป
- สมัครสมาชิกข่าวสาร
การปลอมแปลงเสียงด้วย AI กลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
บทนำ
ในเดือนมิถุนายน 2025 เกิดเหตุการณ์ที่ซับซ้อนเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เน้นความง่ายที่น่าตกใจในการใช้เทคโนโลยีการปลอมแปลงเสียงเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ดี โดยผู้ไม่ประสงค์ดีรายหนึ่งสามารถใช้ AI ปลอมตัวเป็น มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อย่าง convincingly โดยมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากการหลอกลวงด้วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI และความจำเป็นที่เร่งด่วนสำหรับมาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ที่ดีขึ้น
เหตุการณ์: การปลอมแปลงเสียงของมาร์โก รูบิโอ
รายละเอียดของการปลอมแปลง
ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2025 มีบุคคลหนึ่งสร้างบัญชีที่ชื่อว่า "Marco.Rubio@state.gov" ซึ่งไม่ใช่อีเมลจริงของรัฐมนตรีต่างประเทศโดยใช้อุปกรณ์ซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อปลอมเสียงและเขียนข้อความในรูปแบบของรูบิโอ เขาส่งข้อความผ่านการส่งข้อความ, Signal และข้อความเสียงไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศอย่างน้อยสามคน, ผู้ว่าราชการสหรัฐและสมาชิกสภาคองเกรส ข้อความเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นของจริงอย่างสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อหลอกลวงผู้รับให้เปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรืออนุญาตการเข้าถึงบัญชีที่ปลอดภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต (washingtonpost.com)
การตอบสนองของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ โดยออกคำเตือนแก่ผู้ทำงานด้านการทูตเกี่ยวกับการใช้ AI ในการปลอมตัวเป็นรูบิโอและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ใน memorandum วันที่ 3 กรกฎาคม 2025 กระทรวงได้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลเกี่ยวกับการละเมิดนี้และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันข้อมูล ตัวแทนหญิง แทมมี่ บรูซ กล่าวว่า "กระทรวงให้ความสำคัญอย่างจริงจังในการปกป้องข้อมูลของเราและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยไซเบอร์ของกระทรวงให้ดีขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต" (wesh.com)
การเพิ่มขึ้นของการหลอกลวงด้วยเสียงที่สร้างขึ้นจาก AI
ความเข้าใจในเทคโนโลยี Deepfake
เทคโนโลยี Deepfake เกี่ยวข้องกับการใช้ AI เพื่อสร้างเสียง, วิดีโอ หรือภาพถ่ายที่มีความสมจริงสูงแต่เป็นการปลอมแปลง ในบริบทของเสียง Deepfake อัลกอริธึม AI จะวิเคราะห์รูปแบบการพูด, โทนเสียง และจังหวะของเป้าหมายเพื่อสร้างเสียงสังเคราะห์ที่คล้ายคลึงกันมากกับเสียงที่แท้จริง เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในแอปพลิเคชันมากมายจากความบันเทิงไปจนถึงกิจกรรมที่ไม่ดี (en.wikipedia.org)
ผลกระทบต่อความปลอดภัยไซเบอร์
เหตุการณ์การปลอมแปลงรูบิโอเน้นให้เห็นถึงช่องโหว่ในกรอบความปลอดภัยไซเบอร์ปัจจุบัน การหลอกลวงด้วยเสียงที่สร้างขึ้นจาก AI สามารถหลีกเลี่ยงมาตรการความปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ระบบการรับรู้เสียง โดยการสร้างสำเนาที่ดูเหมือนจะมาจากบุคคลที่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการสร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้มีอำนาจ (ft.com)
บริบทที่กว้างขึ้น: เหตุการณ์การปลอมแปลง AI ก่อนหน้านี้
การปลอมแปลง Susie Wiles
ในเดือนพฤษภาคม 2025 เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน involving Susie Wiles หัวหน้าหนังสือของประธานาธิบดีทรัมป์ โดย impostor เข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อส่วนตัวของ Wiles และใช้ AI สร้างข้อความเสียงที่ดูเหมือนจะมาจากเธอ ข้อความเหล่านี้ส่งไปยังบุคคลต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้บริหารธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อหลอกลวงพวกเขาให้ดำเนินการบางอย่าง (time.com)
คำเตือนจาก FBI และแคมเปญที่กว้างขึ้น
สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ได้ออกประกาศบริการสาธารณะเกี่ยวกับ "แคมเปญที่ไม่ดี" ที่อิงการใช้ข้อความเสียงที่สร้างขึ้นจาก AI ในการปลอมแปลงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ แคมเปญเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การหลอกลวงเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากการปลอมแปลงโดยใช้ AI (washingtonpost.com)
การวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ: ความง่ายและอันตรายของการทำซ้ำเสียง AI
การเข้าถึงเครื่องมือการทำซ้ำเสียง
ผู้เชี่ยวชาญเน้นถึงการเข้าถึงเครื่องมือการทำซ้ำเสียง AI ที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเพียงเสียงไม่กี่วินาที เครื่องมือเหล่านี้สามารถสร้างสำเนาเสียงที่เชื่อฟังได้ โดยทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถทำการหลอกลวงแบบนี้ได้ง่ายขึ้น ฮานี ฟาริด ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลจาก UC Berkeley ยังทบทวนว่าการสร้าง Deepfake ต้องการเสียงเพียงแค่ 15-20 วินาที ทำให้เสียงของบุคคลสาธารณะเช่นรูบิโอเป็นที่เข้าถึงได้ง่าย (medium.com)
ศักยภาพในการหลอกลวงและการฉ้อโกง
ศักยภาพสำหรับการ Manipulation และการฉ้อโกงที่ใช้เสียงที่สร้างขึ้นจาก AI นั้นกว้างขวาง Deepfakes สามารถใช้ในการปลอมตัวบุคคลในตำแหน่งอำนาจ ซึ่งนำไปสูการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับไม่ได้รับอนุญาต, การฉ้อโกงทางการเงิน, และการแพร่กระจายข้อมูลที่ผิดพลาด สำนักงาน Better Business Bureau ประมาณว่าการหลอกลวงด้วย Deepfake รับผิดชอบต่อการสูญเสียจากการฉ้อโกงทั่วโลกประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 40 พันล้านดอลลาร์ในอีกสามปีข้างหน้า (en.wikipedia.org)
กลยุทธ์การบรรเทาและคำแนะนำ
มาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็งขึ้น
องค์กรต่างๆ ควรใช้โปรโตคอลความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็งเพื่อรับรู้และป้องกันความพยายามในการปลอมแปลงที่ขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบช่องทางการสื่อสารสำหรับสิ่งผิดปกติ, การใช้วิธีการยืนยันตัวตนที่ทันสมัย และการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ (ft.com)
วรรณกรรมสื่อและการสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชน
การศึกษาความรู้เกี่ยวกับสื่อและความเสี่ยงของ Deepfakes เป็นสิ่งจำเป็น การส่งเสริมการรู้หนังสือในสื่อช่วยให้ผู้คนประเมินข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณและรับรู้ถึง Deepfakes ที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ความสามารถในการแยกแยะเนื้อหาที่แท้จริงจากของปลอมจึงมีความสำคัญ (en.wikipedia.org)
กรอบกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
การพัฒนาและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับการใช้งาน AI ที่ไม่เหมาะสมในการสร้าง Deepfakes เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรวมถึงการกำหนดโทษสำหรับการใช้งานที่ไม่ดีและการสร้างมาตรฐานสำหรับเนื้อหาที่สร้างขึ้นจาก AI มาตรการเหล่านี้สามารถป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นและให้แนวทางการดำเนินการในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ (en.wikipedia.org)
บทสรุป
การปลอมแปลงเสียงด้วย AI ของมาร์โก รูบิโอ เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่มีอยู่ในระบบการสื่อสารดิจิทัลของเรา ขณะที่เทคโนโลยี AI ยังคงพัฒนาไปต่อไป ศักยภาพสำหรับการใช้ในทางที่ไม่ดีมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นโดยตั้งแต่เป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อทั้งบุคคลและองค์กร ซึ่งการดำเนินการเชิงรุก รวมถึงการพัฒนากรอบความปลอดภัยไซเบอร์ที่ดีขึ้น การสร้างความรู้สึกสำนึกในสื่อ และการพัฒนากฎหมายที่ครอบคลุม เป็นสิ่งจำเป็นในการลดภัยคุกคามเหล่านี้และป้องกันอันตรายจากการหลอกลวงด้วยเสียงที่สร้างขึ้นจาก AI
สมัครสมาชิกข่าวสาร
- US State Department Tightens Cyber Security After Marco Rubio Impersonation, วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม
- AI Scammer Fakes Rubio Messages to Top Officials, วันพุธที่ 9 กรกฎาคม
- Trump Officials Keep Getting Impersonated by A.I. ‘Vishing’ Scammers-What to Know and How to Protect Yourself, วันพุธที่ 9 กรกฎาคม

